ไฮยีนา (อังกฤษ : hyena ; มาจากคำภาษากรีกโบราณ ว่าὕαινα ,hýaina ออกเสียงว่า /ฮือไอนา/ หรือ /ฮือแอนา/)[ 1] เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์กินเนื้อวงศ์ หนึ่ง โดยใช้ชื่อวงศ์ว่า Hyaenidae พร้อมกับ 4 สายพันธุ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ (แต่ละชนิดมีสกุล ของตนเอง) ไฮยีนาเป็นวงศ์ที่เล็กอันดับ 5 ในอันดับสัตว์กินเนื้อ และเป็นหนึ่งในชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่เล็กที่สุด[ 2] ถึงแม้ว่าจะมีความหลากหลายน้อย ไฮยีนาเป็นสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์และสำคัญในระบบนิเวศแอฟริกา ส่วนใหญ่[ 3]
ไฮยีนา มีลักษณะและรูปร่างโดยรวมคล้ายกับสุนัข หรือหมาป่า ซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อที่อยู่ในวงศ์ Canidae แต่ไฮยีนาก็ไม่ใช่สุนัข หากแต่เป็นสัตว์ที่อยู่ในวงศ์ของตนเองต่างหาก โดยอยู่ในอันดับย่อย Feliformia ซึ่งใกล้ชิดกับวงศ์เสือและแมว และวงศ์ชะมดและอีเห็น มากกว่า
ไฮยีนาสามารถแบ่งได้เป็น 25สกุล (ดูในตาราง)[ 4] หลายชนิด แต่ปัจจุบัน เหลือแค่ 4 ชนิด 3 สกุล กระจายพันธุ์ทั่วไปในทวีปแอฟริกา และบางส่วนในภูมิภาคอาหรับ และอินเดีย ไฮยีนามีลักษณะรูปร่างคล้ายกับสุนัข มีขนหยาบหนาสีน้ำตาล แกมเทา มีลายและจุดแตกต่างกันตามแต่ละชนิด และมีหางยาวราว 18 นิ้ว ไหล่และหัวมีส่วนกว้าง ไหล่สูงกว่าขาหลังมาก และมีกรามที่แข็งแกร่งและแข็งแรงมาก ทำให้เป็นสัตว์จำพวกหนึ่งที่มีแรงกัดรุนแรงมาก
ไฮยีนามักจะรวมตัวกันออกหาเหยื่อโดยมีตัวเมียเป็นจ่าฝูง ไฮยีนาตัวเมียนั้นจะมีอวัยวะเพศที่ขยายใหญ่ได้จนมีขนาดเท่ากับอวัยวะเพศของตัวผู้ ตัวใดที่มีลักษณะอวัยวะเพศคล้ายเพศผู้ จะสามารถเข้ากลุ่มตัวเมียได้ดี ไฮยีนาตัวเมียที่ไม่มีอวัยวะเพศผู้จะถูกขับออกจากกลุ่มตัวเมีย และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการมีกลุ่มได้ ไฮยีนาสามารถวิ่งได้เร็วถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นิสัยค่อนข้างดุ ไฮยีนาตัวเมียจะมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าตัวผู้ เนื่องจากจะเป็นฝ่ายดูแลลูก เพราะตัวผู้จะทำอันตรายและกินลูกไฮยีนาที่เกิดใหม่เป็นอาหารได้
ไฮยีนาออกหากินในเวลากลางคืน ตอนกลางวัน จะนอนหลับพักผ่อนในโพรงหรือซอกหิน จะคลอดลูกและเลี้ยงดูลูกในโพรง โดยออกลูกครั้งละประมาณ 1-2 ตัว บางครั้งอาจได้ถึง 4 ตัว โดยลูกอ่อนจะยังลืมตาและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
↑ ὕαινα , Henry George Liddell, Robert Scott,A Greek-English Lexicon , on Perseus. Etymologically, this is a feminine of ὕς "swine".↑ Wilson, D.E.; Mittermeier, R.A., บ.ก. (2009).Handbook of the Mammals of the World, Volume 1: Carnivora . Barcelona: Lynx Edicions. pp. 50–658.ISBN 978-84-96553-49-1 . ↑ Mills& Hofer 1998 , p. iv ↑ จาก itis.gov(อังกฤษ) ↑ หน้า 108-110,สัตว์สวยป่างาม โดย ชมรมนิเวศวิทยามหาวิทยาลัยมหิดล (สิงหาคม 2518 ) Heptner, V. G.; Sludskii, A. A. (1992)."Mammals of the Soviet Union: Carnivora (hyaenas and cats), Volume 2" . Smithsonian Institution Libraries and National Science Foundation. {{cite journal }}:Cite journal ต้องการ| journal= (help ) Kruuk, Hans (1972). "The Spotted Hyena: A Study of Predation and Social Behaviour". University of California Press. {{cite journal }}:Cite journal ต้องการ| journal= (help ) Kurtén, Björn (1968). "Pleistocene mammals of Europe". Weidenfeld and Nicolson. {{cite journal }}:Cite journal ต้องการ| journal= (help ) Macdonald, David (1992).The Velvet Claw: A Natural History of the Carnivores . New York: Parkwest.ISBN 0-563-20844-9 . Mills, Gus ; Hofer, Heribert (1998).Hyaenas: status survey and conservation action plan (PDF) . IUCN/SSC Hyena Specialist Group.ISBN 2-8317-0442-1 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ May 6, 2013.Mills, Gus ; Mills, Margie (2010).Hyena Nights and Kalahari Days . Jacana Education.ISBN 978-1-77009-811-4 .Pocock, R. I. (1941)."Fauna of British India: Mammals Volume 2" . Taylor and Francis. {{cite journal }}:Cite journal ต้องการ| journal= (help ) Rosevear, Donovan Reginald (1974).The carnivores of West Africa . London : Trustees of the British Museum (Natural History).ISBN 0565007238 . Funk, Holdger (2010)Hyaena: On the Naming and Localisation of an Enigmatic Animal , GRIN Verlag,ISBN 3-640-69784-7 Lawick, Hugo & Goodall, Jane (1971)Innocent Killers , Houghton Mifflin Company Boston Mills, M. G. L. (2003)Kalahari Hyenas: Comparative Behavioral Ecology of Two Species , The Blackburn Press วิกิพจนานุกรม มีความหมายของคำว่า
ไฮยีนา