| รูเซฟ | |
|---|---|
| ชื่อเกิด | มิโรสสลาฟ บาร์นยาเชฟ |
| เกิด | (1985-12-25)25 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (39 ปี) ปลอฟดิฟ สาธารณรัฐประชาชนบัลแกเรีย |
| คู่สมรส | ซีเจ เพอร์รี(สมรส 2016) |
| ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
| ชื่อบนสังเวียน | Alexander Rusev[1] Miro[2] Miroslav[3] Miroslav Makarov[3] Rusev[4] |
| ส่วนสูง | 6 ฟุต 0 นิ้ว (183 เซนติเมตร)[4][5] |
| น้ำหนัก | 304 ปอนด์ (138 กิโลกรัม)[4] |
| มาจาก | บัลแกเรีย[6] มอสโก รัสเซีย |
| ฝึกหัดโดย | ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง[1] Gangrel[1][5] ริกิชิ[5] |
| เปิดตัว | 22 พฤศจิกายน 2008[7] |
มิโรสสลาฟ บาร์นยาเชฟ (อังกฤษ: Miroslav Barnyashev;บัลแกเรีย: Мирослав Барняшев; เกิด 25 ธันวาคม ค.ศ. 1985)[8][1] เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ อดีตนักกีฬายกน้ำหนัก และนักกีฬาเรือกรรเชียงชาวบัลแกเรีย เป็นที่รู้จักดีจากดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE) ในชื่อรูเซฟ (Rusev)[4][5] นอกจากนี้เขายังเป็นนักมวยปล้ำชาวบัลแกเรียคนแรกในดับเบิลยูดับเบิลยูอี[3] ในออลอีลิตเรสต์ลิงใช้ชื่อมิโร (Miro)
บาร์นยาเชฟย้ายมาอยู่ในสหรัฐ และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ เดิมเขาอยู่ที่เวอร์จิเนีย ก่อนจะย้ายไปทอร์แรนซ์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเริ่มฝึกมวยปล้ำที่นั้นกับ แกงเกรล และริกิชิที่สถาบันฝึกน็อกซ์โปรเรสต์ลิง บาร์นยาเชฟเริ่มปล้ำในสมาคมอิสระ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2008 โดยใช้ชื่อ “มิโรสลาฟ มาการอฟ” ชนะ แอเรียล สตาร์[7]
ปี 2010 บาร์นยาเชฟได้ปล้ำที่สมาคมเวนเดตตา โปรเรสต์ลิง (VPW) ในชื่อ “มิโรสลาฟ” ขณะที่ปล้ำในสมาคม ก็ได้มีผู้จัดการชื่อ มาร์คุส แมก[9] เขาและนักมวยปล้ำของสมาคม VPW เคยปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอของเพลง The Whole F'n Show ที่ร้องโดย Kushinator (เพลงเปิดตัวของร็อบ แวน แดม)[10]

กันยายน 2010 บาร์นยาเชพได้เซ็นสัญญากับสมาคมมวยปล้ำอาชีพWWE[3] เขาถูกส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกทักษะฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (FCW) ของ WWE โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า อเล็กซานเดอร์ รูเซฟ[1] แมตช์ที่ออกอากาศครั้งแรกของเขาคือ FCW ตอนของวันที่ 17 กรกฎาคม 2011 โดยเอาชนะไมก์ ดาลตัน โดยมีราเควล ดิแอชเป็นผู้จัดการให้[11][12] หลังจากนั้นไม่นานเขาได้รับบาดเจ็บที่ที่หมอนรองกระดูก และเอ็กไขว้หน้าตรงขาดฉีก ทำให้ต้องรักษาตัว 6 เดือน[5]
รูเซฟกลับมา FCW เดือนมีนาคม 2012 โดยมีนิก โรเจอส์เป็นผู้จัดการ ฤดูร้อนของปี 2012 รูเซฟได้ประสบคอหัก และอัมพาตที่แขนชั่วคราว ระหว่างที่กายบำบัด เขาก็ได้มาเที่ยวที่ประเทศไทย ในระหว่างนั้นเขาก็เรียนมวยไทยด้วย สิงหาคม 2012 WWE ได้เปลี่ยนชื่อ FCW เป็นNXT[13] หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บได้แล้ว รูเซฟได้เริ่มปล้ำใน NXT วันที่ 30 พฤษภาคม 2013 ในแบทเทิลรอยัลหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 แชมป์ NXT โดยเป็นโบ ดัลลัสที่ชนะ[14] แมตช์เดี่ยวแรกของเขาใน NXT แพ้ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์เมื่อ 21 สิงหาคม[15][5][16][17]
รูเซฟได้ลานาเป็นผู้พูดออกสื่อ (ผู้จัดการ) แทนเขา[18] โดย WWE ได้วางบททั้งคู่ให้เหมือนอีวาน และลุดมิลลา ดราโกในหนัง ร็อกกี 4[19] ก่อนที่รูเซฟจะขึ้นค่ายหลัก[20][21] เขาได้ปล้ำเอาชนะนักมวยปล้ำค่ายหลักไปได้ในแมตช์เดี่ยวที่บันทึกเทปไว้ฉายเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์[22][23][24] เขายังปรากฏตัวใน NXT หลังรวมกับค่ายหลักแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2014 เขาปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในแมตช์ที่เขาแพ้ฟาล์วแชมป์ NXTเนวิลล์ โดยไม่มีการชิงเข็มขัด[25]
เขามาปล้ำค่ายหลักครั้งแรกในศึกใหญ่รอยัลรัมเบิล (2014) ออกมาคนที่ 6 โดยถูกเหวี่ยงออกด้วยนักมวยปล้ำสี่คน[26] หลังจากนั้นหลายเดือนก็มีวิดีโอโปรโมตออกมา ก่อนที่จะเปิดตัวขึ้นปล้ำอีกครั้งในรอว์ 7 เมษายน โดยมีลานามาเป็นผู้จัดการส่วนตัว ในแมตช์นั้นเขาไล่ยำแซ็ก ไรเดอร์[27] ในเดือนพฤษภาคม เขาได้เปลี่ยนกิมมิกคนคลั่งชาติรัสเซีย ที่ต่อต้านอเมริกามาใช้ โดยประกาศว่าตนย้ายที่อยู่เป็นรัสเซีย และได้รับนาม “วีรบุรุษแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Hero of the Russian Federation)” ในเดือนเดียวกันชื่อบนสังเวียนเขาได้ลดจาก “อเล็กซานเดอร์ รูเซฟ” เหลือเพียงแค่ “รูเซฟ” หลังจากนั้นหลายเดือนเขาก็ได้เปิดศึกชนะทั้งบิ๊กอี (ในเพย์แบ็กและมันนีอินเดอะแบงก์),แจ็ก สแวกเกอร์ (ในแบทเทิลกราวด์และซัมเมอร์สแลม),มาร์ก เฮนรี (ในไนท์ออฟแชมเปียนส์) และบิ๊กโชว์(ในเฮลอินอเซล) ลานาได้ออกมาบอกว่าขออุทิศการชนะต่อเนื่องของรูเซฟแด่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อสำคัญ-รวมไปถึงเดอะวอชิงตันโพสต์ และเดอะเดลีโพสต์[28] นอกจากนั้นลานายังถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังเธอตีความที่อ้างถึงมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 17 ก่อนหน้าแมตช์ที่รูเซฟจะปล้ำในแบทเทิลกราวด์ ซึ่งเป็นประเด็นร้อนกันมาก ในรอว์ 6 ตุลาคม รูเซฟและลานาได้เผชิญหน้ากับเดอะร็อก ที่ปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์แฟน ๆ โดยรูเซฟถูกไล่ต่อยจนต้องหนีลงไป หลังจากที่พูดจาถากถางกับร็อก[29]
3 พฤศจิกายน รูเซฟได้แชมป์มวยปล้ำเป็นครั้งแรก และเป็นแชมป์คนบัลแกเรียคนแรกในประวัติศาสตร์ WWE โดยเขาได้แชมป์ยูเอสจากเชมัสในรอว์ แมตช์ที่ฉายเฉพาะในดับเบิลยูดับเบิลยูอีเน็ตเวิร์ก[30] วันที่ 23 พฤศจิกายน ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ เขาปล้ำในแมตช์ประเพณีของศึกนี้ โดยอยู่ทีมออธอริตี รูเซฟได้ออกจากแมตช์โดยเคาต์เอาต์ หลังกระแทกใส่โต๊ะผู้บรรยายภาษาสเปน[31] รูเซฟได้เข้าร่วมศึกรอยัลรัมเบิล (2015) ออกมาเป็นคนที่ 15 และเขาก็ถูกเหวี่ยงออกคนสุดท้ายโดยโรแมน เรนส์ ซึ่งเขาสามารถเหวี่ยงคนอื่นได้ถึง 6 คน[32] ต่อมารูเซฟได้เปิดศึกกับจอห์น ซีนา[33] โดยเขาต้องป้องกันแชมป์ยูเอสกับซีนาในฟาสต์เลน (2015) และเขาสามารถเอาชนะไปได้ด้วยท่าซับมิสชัน The Accolade จนซีนาสล้มไป[34] หลังจากนั้นซีนาได้ขอรีแมตช์กับรูเซฟในการชิงแชมป์ยูเอสอีกครั้งในศึกใหญ่ที่สุดของ WWE อย่างเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31[35] สุดท้ายรูเซฟก็แพ้เสียแชมป์ให้ซีนา และเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกของเขาใน WWE[36]
รูเซฟได้เลิกกับลานา (ในบท)[37][38] มาคบกับซัมเมอร์ เรย์[39] และเปิดศึกกับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ที่เป็นแฟนใหม่ของลานา[40][41][42] ในซัมเมอร์สแลม (2015) ได้มีแมตช์กับซิกก์เลอร์ แต่จบลงโดยการดับเบิลเคาต์เอาต์นับ 10 แพ้ทั้งคู่[43][44] ก่อนจะรีแมตช์กันในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) และเป็นซิกก์เลอร์ที่ชนะ ในรอว์ 5 ตุลาคม ซัมเมอร์ เรย์ได้ขอรูเซฟแต่งงาน ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาจะต้องเป็นแชมป์ก่อน[45] วันที่ 11 ตุลาคม TMZ ได้รายงานว่า รูเซฟได้ขอหมั้นกับลานาแล้วในชีวิตจริง[46][47][48] และได้ถูกนำมาใช้ในเรื่องราวซึ่งส่งผลให้รูเซฟกับซัมเมอร์จบความสัมพันธ์กัน[49]เดือนพฤศจิกายน 2015 รูเซฟได้เข้าร่วมกลุ่มเดอะลีกออฟเนชันส์และแตกทีมในเดือนเมษายน 2016[50][51] ในรอว์ 2 พฤษภาคม รูเซฟได้เป็นผู้ชนะแบทเทิลรอยัลได้สิทธิ์ชิงแชมป์ยูเอสกับคาลิสโต[52] และคว้าแชมป์ได้เป็นสมัย 2 ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2016)[53] เดือนกรกฎาคมได้ถูกร่างให้อยู่รอว์ในฐานะแชมป์ยูเอส[54] ในแคลชออฟแชมเปียนส์ (2016) เสียแชมป์ให้โรแมน เรนส์[55]
เมษายน 2017 รูเซฟได้ย้ายมาสแมคดาวน์[56] ในแบทเทิลกราวด์ (2017) แพ้ซีนาใน Flag match จากนั้นก็แพ้ให้แรนดี ออร์ตันทั้งซัมเมอร์สแลม (2017) เพียงไม่กี่วิและในเฮลอินเอเซล (2017) แบบหมดสภาพ ในช่วงปลายปีได้ก่อตั้งกิมมิค Rusev Day โดยมีไอเดน อิงลิชเป็นกระบอกเสียงร้องเพลง ทำให้แฟน ๆ ตะโกนเชียร์ Rusev Day อย่างบ้าคลั่ง ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34 ได้ร่วมชิงแชมป์ยูเอสแบบ 4 เส้าแต่ไม่สำเร็จ ในเกรเทสต์ รอยัลรัมเบิลที่ซาอุดีอาระเบียรูเซฟได้ขึ้นปล้ำแบบจับใส่โลงศพแพ้ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในสแมคดาวน์ 8 พฤษภาคมได้ชนะแดเนียล ไบรอันทำให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมไต่บันไดชิงกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ (2018) แต่ไม่ชนะ ในสแมคดาวน์ 19 มิถุนายนรูเซฟชนะ gauntlet match 5 คนได้สิทธิ์ชิงแชมป์ WWEกับเอเจ สไตส์ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2018) และเป็นการชิงแชมป์โลกครั้งแรกของรูเซฟแต่ไม่สำเร็จ ต่อมารูเซฟกับอิงลิชได้คว้าสิทธิ์ชิงแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWE กับเดอะนิวเดย์แต่ไม่สำเร็จก่อนจะถูกอิงลิชหักหลังในเวลาต่อมา ในปลายปี 2018 รูเซฟได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยที่ 3 จากชินซูเกะ นากามูระ ก่อนเสียคืนเพียง 1 เดือน[57]
ในเดือนกันยายน 2019 รูเซฟได้กลับมาในบทฝ่ายธรรมะ[58] โดยเปิดศึกกับบ็อบบี แลชลีย์ที่เป็นชู้กับลานาภรรยาของรูเซฟทำให้เลิกกับลานา(ในบท) ต่อมาได้ถูกดราฟต์ไปรอว์ก่อนออกในปี 2020[59]
กันยายน 2020 รูเซฟได้เซ็นสัญญากับAEW โดยใช้ชื่อว่า มิโร และได้คว้าแชมป์ TNT จาก Darby Allin[60] เขาได้หมดสัญญากับ AEW ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025[61]
ในเดือนเมษายน 2025 ได้กลับมาสู่ WWE และกลับมาใช้ชื่อ รูเซฟ อีกครั้ง[62]
| Year | Title | Role | Notes |
|---|---|---|---|
| 2016 | Countdown | ตัวเอง | |
| 2016 | Scooby-Doo! and WWE: Curse of the Speed Demon | ตัวเอง | พากย์เสียง |
| 2018 | Another Version Of You | คิริล | แฟนหนุ่มเก่าของกวินิท (ภรรยาของซีเจ เพร์รี ในชีวิตจริง) |
| Year | Title | Role | Notes |
|---|---|---|---|
| 2016–present | Total Divas | ตัวเอง | Recurring (season 6) |
| Year | Title | Role | Notes |
|---|---|---|---|
| 2015–present | UpUpDownDown | ตัวเอง/Tong Po | ปรากฎตัวปรกติ |
| 2016 | Sisters the Series | แฟนหนุ่ม | 1 ตอน |
รูเซฟได้แต่งงานกับซีเจ เพร์รี หรือชื่อในวงการมวยปล้ำลานา ในปี 2016[63][64] พวกเขาอาศัยที่แนชวิลล์รัฐเทนเนสซี[65] ก่อนแยกทางกันในปี 2023[66][67] และกลับมาคบกันอีกครั้งในปี 2025[68]
<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSage2020<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFCWarchived#HappyBirthday to my best friend @RusevBUL 🎂 31 years ago the world became a better place.
The Mysterious Blonde announces Alexander Rusev. Apparently, she is "Lana" his social ambassador.
Alexander Rusev and Lana remind me of that duo from "Rocky IV."
Rusev crashed hard through the table. Ziggler got back into the ring, but even with help from HHH's minions, Rusev wasn't able to get there before the ref counted to 10 and he was counted out.[ลิงก์เสีย]
<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPWI2015<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPWI2015B<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWONAwards2014<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAlvarez2018<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อUSTitle<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อUSTitle2<ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLaboon2014